< :: ส ว น หิ น :: แหล่งการเรียนรู้ทางธรณีวิทยา โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ

หน้าแรก
การตรวจและวินิจฉัยแร่
  คุณสมบัติทางฟิสิกส์
   -สี
   -รูปผลึก
   -แนวแตกเรียบ(คลีเวจ)
   -ความวาว
   -ความแข็ง
   -ความเหนียว
   -คุณสมบัติเกี่ยวกับแม่เหล็ก
   -ความถ่วงจำเพาะ
 คุณสมบัติทางเคมี
   -การตรวจปฏิกิริยากับกรด
   -การตรวจการละลายในกรด
   -การตรวจด้วยเปลวไฟ
 คุณสมบัติเกี่ยวกับแสง
   -การให้แสงผ่าน
   -การเรืองแสง
สารบัญสวนหิน
ธนาคารภาพ
กระดานสนทนา

จุดประสงค์
คณะผู้จัดทำ

 

 

 

ระบบผลึก ( Crystal system )

   1. ระบบไอโซเมทริก ( Isometric System )
    มีแกน 3 แกนเท่ากันและตัดกันที่กึ่งกลางเป็นมุมฉากรูปผลึกในระบบนี้ที่เห็นชัดคือ รูปลูกเต๋า ได้แก่ กาลีนา
ไพไรต์  รูปอื่นๆหรือแบบอื่นคือแบบลูกตะกร้อ เช่น การ์เนต เป็นต้น
   2. ระบบเททราโกนาล ( Tetragonal System )
    มีแกน 3 แกน ตัดตั้งฉากกันที่กึ่งกลาง 2 แกนยาวเท่ากันแกนที่ 3 อาจจะยาวหรือสั้นกว่าก็ได้ รูปหน้าตัดของแร่
ในระบบนี้จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เช่น แร่ดีบุก เซอร์คอน เป็นต้น
   3. ระบบออร์โทรอมบิก ( Orthorhombic System )
    มีแกน 3 แกน ตัดตั้งฉากที่กึ่งกลางแต่ยาวไม่เท่ากันเลย รูปหน้าตัดจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เช่น โทแพช
สตอไรไลด์ ( Staurolite ) แบไรต์ กำมะถัน
   4. ระบบโมโนคลินิก ( Monoclinic System )
    มีแกน 3 แกนยาวไม่เท่ากันเลย 2 แกนตัดตั้งฉากกัน ส่วนแกนที่ 3 ตัดทำมุมกับ 2 แกนแรก เช่น ยิปซัม
ออร์โทเคลส
   5. ระบบไทรคลินิก ( Triclinic System )
    แกน 3 แกนไม่เท่ากันและตัดไม่ตั้งฉากกันเลย เช่น ไมโครไคลน์ คาลแคนไทด์
   6. ระบบเฮกซะโกนาล ( Hexagonal System )
    มี แกน 4 แกน 3 แกน อยู่ในแนวราบ ยาวเท่ากันและตัดทำมุม 60 องศาซึ่งกันและกัน แกนที่ 4 ยาวหรือสั้น
กว่าก็ได้และตั้งฉากกับ 3 แกนแรก เช่น ควอร์ตซ์ คอรันดัม เป็นต้น
แร่ที่เกิดเป็นผลึกนั้นอาจจะมีขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจนหรือมีขนาดเล็ก หรือเล็กมากจนต้องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์
นอกจากนี้แร่ยังอาจเกิดซ้อนกันหรือรวมกันเป็นกลุ่มเป็นกอเป็นกระจุก หรือบางชนิดไม่แสดงหน้าผลึกชัดและนอก
จากนั้นยังแสดงลักษณะรูปร่างเฉพาะแบบหนึ่งๆ ( Habit ) ซึ่งมีประโยชน์ในการนำมาประกอบพิจารณาในการ
ตรวจวิจัยแร่ด้วยเช่นกัน

   ลักษณะรูปร่างที่จะกล่าวต่อไปนี้ยังมีประโยชน์ในด้านที่ทำให้เป็นที่สนใจเพราะลักษณะแปลก และสวยงามตาม
ธรรมชาติซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับนักสะสมไว้เป็นหินประดับ และมีคุณค่าเป็นสมบัติวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง สำหรับที่จะมี
ไว้ในพิพิธภัณฑ์เพราะลักษณะแร่แปลกๆ บางชนิดนั้นพบได้ยากมาก
แร่ในรูปร่างลักษณะอื่นๆ แร่อาจเกิดในลักษณะต่างๆกัน ซึ่งเราจัดเรียกลักษณะที่ไปตามที่เห็นรูปร่างภายนอก
ได้แก่
   1. ผลึกชัด ( Crystallized )
    ลักษณะผลึกเห็นได้ชัด ส่วนที่จะเข้าในระบบไหนก็ศึกษาพิจารณาอีกต่างหาก เช่น ผลึกควอร์ตซ์ ( Quartz
Crystal ) รูป 6 เหลี่ยมอยู่ในระบบเฮกซะโกนาล เป็นต้น
   2. ผลึกไม่ชัด ( Crystalline )
    ลักษณะผลึกไม่ชัดเจนและผลึกไม่สมบูรณ์เพราะเกิดปนกัน และเบียดเสียดหรือซ้อนกันในระหว่างที่มี
การตกผลึก ( แคลไซด์ในหินปูน )
   3. ผลึกเล็กละเอียด ( Crytocrystalline )
    มองดูด้วยตาเปล่าไม่เห็น ต้องตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ชนิดโพลาไรส์ จึงจะเห็นรูปผลึก เช่น
คาลซิโดนี ( Chacedony )
   4. ไม่เป็นผลึก ( Amorphous )
    เพราะอณูภายในจัดตัวกันระเกระกะไม่เป็นระเบียบ เช่น โอปอ
   5. รูปเข็ม ( Acicular )  
    ลักษณะเรียวยาวคล้ายเข็มเล็กๆ เกิดรวมกันอยู่มากมายแต่ละอันเห็นได้ชัด เช่น เนโทรไลต์ ( Natrolite )
   6. รูปใบมีด ( Bladed )
    ลักษณะเป็นแผ่นแบนยาวแบบใบมีด คือหนาด้านหนึ่งและบางอีกด้านหนึ่ง เช่น สติบไนด์ ไคยาไนต์
   7. รูปกิ่งไม้ ( Dendritic )
   ลักษณะคล้ายกิ่งไม้ที่แตกแขนงออกไป แร่มักจะเกิดตรงระนาบชั้นหินหรือตรงรอยแยกรอยร้าว เช่น แมงกานีส
   8. รูปรังตาข่าย ( Recticulated )
   ผลึกแร่ก่ายเกาะขัดกันไปมาไม่เป็นระเบียบดูคล้ายตาข่ายร่างแหหรือรังนก เช่น รูไทล์ในควอร์ตซ์ ( เข็มทอง )
   9. รูปรัศมี ( Radiated )
   ผลึกแร่กระจายออกจากจุดกึ่งกลางอันหนึ่งในลักษณะเป็นรัศมีออกไปเช่น สติบไนต์
   10. รูปเม็ดน้ำตาล ( Drusy )
   ผลึกแร่เป็นเม็ดเล็กๆ คล้ายเม็ดน้ำตาลทรายเกาะกันอยู่ที่ผิว
   11. รูปแท่ง หรือ เสา ( Columnar )
   ผลึกเกิดเป็นแท่งหรือลำใหญ่กว่ารูปเข็มและเรียงรวมกัน เช่น ฮอร์นเบลนด์ อะราโกไนต์
   12. รูปเส้นใย ( Fibrous )
   ผลึกอาจเป็นจะแข็งหรืออ่อนนิ่มแบบใยไหมก็ได้ เช่น แร่ใยหิน
   13. รูปพวงองุ่น ( Botryoidal )
   ผลึกเป็นลูกกลมหรือกลมครึ่งซีก เกิดเกาะกันเป็นกลุ่มดูคล้ายพวงองุ่น เช่น คาลซิโดนี ไซโลมิเลน
   14. รูปไต ( Teniform )
   ลักษณะภายนอกมนเรียบคล้ายรูปไต เช่น ฮีมาไทต์ ไพโรลูไซต์
   15. รูปฝาชี ( Mammillary )
   ทรงมน เช่น ฮีมาไทด์
   16. รูปกาบหรือแผ่นๆ ซ้อนกัน ( Foliated )
   แร่เกิดเป็นแผ่นๆ หรือกาบบางๆ ซ้อนกันแบบใบไม้ซ้อนแยกแซะออกได้ เช่น ยิปซัม
   17. แผ่นหรือเกล็ดบางๆ ( Micacaeous )
   แร่เกิดเป็นแผ่นหรือเกล็ดบางมากซ้อนกันแน่น ลอกหรือแยกหลุดออกได้โดยง่าย เช่น ไมกา ฮีมาไทต์
   18. ชั้นหรือแผ่นหนา ( Lamellar or Tabular )
   ลักษณะแร่เป็นแผ่นหนาเกาะยึดกันติดกันแน่น แยกออกไม่ได้หรือได้ยาก เช่น วุลแฟรไมต์
   19. มวลเมล็ด ( Granular )
   เนื้อแร่มีลักษณะเป็นเมล็ดหรือเม็ดเล็กๆ เกาะกันแน่นแบบเม็ดน้ำตาล เช่น ยิปซัม แมกนีไทต์
   20. รูปหินงอก ( Stalactitic )
   แร่มีลักษณะเป็นแท่งรูปกระบอกหรือกรวย โดยการเคลือบพอกเซ้นต่อๆ กันไป เช่น คาลซิโดนี บางที
รูปกระบอกเอนพาดก่ายกันไปมา ดูคล้ายตัวหนอน
   21. เม็ดถั่วเขียว ( Pisolitic )
   แร่มีลักษณะเป็นเม็ดกลมๆ ขนาดเม็ดถั่วเขียวเกาะกัน เช่น ไลมอไนต์
   22. แถบหรือลาย ( Banded )
   ลักษณะแร่เกิดเป็นแถบหรือลายบางๆ สีหรือเนื้อต่างกัน เช่น อะเกต
   23. เม็ดไข่ปลา ( Oolitic )
   แร่มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ ขนาดไข่ปลา
   24. เนื้อสมานแน่น ( Massive )
   แร่มีลักษณะเนื้อแน่นสมานกันสนิทจนดูไม่ออกว่าจะจัดเป็นแบบไหน
   25. หินโพรงหรือจีโอต ( Geode )
    แร่เกิดในรูปก้อนกลมข้างในเป็นโพรง มีแร่ตกผลึกหรืองอกอยู่ข้างในส่วนที่ติดผนังข้างในจะเป็นวงหรือลาย
ซ้อนๆกัน เป็นแร่อะเกตและส่วนในสุดจะเป็นผลึกแร่ชัดเจนสวยงามวาวใสราวกับเพชรน้ำค้าง ส่วนมากเป็น
ผลึกควอ์ตซ์

 


© 2025 Assumption Samutprakarn School. All Right Reserved.
Website by ACSP Website Team