เซอร์เพนทิไนท์
คุณสมบัติทางฟิสิกส์:
รูปผลึกระบบโมโนคลินิก ลักษณะของผลึกมี 2 แบบ คือ แบบที่มีลักษณะเป็นแผ่น เรียกว่า แอนทิโกไรต์ (Antigorite) และ แบที่เป็นเส้นใย เรียกว่า คริโซไทล์ (chrysotile) เนื้อเหนียว นอกจากพวกเส้นใยจะแยกออกได้ ตามแนวเส้น แข็ง 2-5 แข็งปกติประมาณ 4 ชนิดที่เป็นเส้นใย ถ.พ. 2.2 และชนิดที่เป็นแผ่นจะมีค่า ถ.พ.2.65 วาว แบบน้ำมันฉาบ แอนทิโกไรต์ วาวแบบขี้ผึ้ง จับดูคล้ายขี้ผึ้งเช่นกัน และ คริโซไทล์วาวแบบใยไหม สีมีตั้งแต่เขียว อ่อนจนถึงเขียวแก่โปร่งแสง
ลักษณะเด่นและวิธีตรวจ:
ดูจากสีและความวาวคล้ายขี้ผึ้ง หรือดูจากลักษณะที่เป็นเส้นใยต่างจากแอมฟิโบลชนิดที่เป็นเส้นใยตรงที่มี โมเลกุลของน้ำอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ไม่หลอมตัวผุสลายในกรดเกลือแต่ไม่มีวุ้น
การกำเนิด:
พบโดยทั่วไป เกิดจากการเปลี่ยนแปรสภาพ (alteration) ของแร่แมกนีเซียมซิลิเกต โดยเฉพาะพวกโอลิวีน ไพรอกซีน และแอมฟิโบล มักจะเกิดร่วมกับแมกนีไซต์โครไมต์และแมกนีไทต์ พบทั้งในหินอัคนีและหินแปร ถ้าปกติกล่าวถึงเซอร์เพนทีนจะหมายถึงแร่ชนิดที่มีลักษณะเป็นแผ่นคือ แอนทิโกไรต์นั่นเอง
แหล่งที่พบ:
ในประเทศไทย พบที่ จ.เชียงใหม่ ลำพูน อุตรดิษฐ์ ปราจีนบุรี จันทบุรีและนราธิวาส สำหรับใยหินหรือปุยศิลา (Asbestos) ที่ จ.อุตรดิษฐ์นั้นเป็นชนิดคริโซไทล์ เส้นใยสั้นๆและยุ่ยไม่เหนียว ใช้ประโยชน์ได้เพียงมาทำ กระเบื้อง กระดาษทนไฟ และใช้พอกหุ้มท่อไอน้ำกันความร้อน
ประโยชน์:
คริโซไทล์เป็นตัวสำคัญที่จะให้แอสเบสทอส ซึ่งใช้ทำวัสดุทนไฟ คุณสมบัติของแร่ที่จะนำมาใช้ทำวัสดุทนไฟ จะต้องเป็นเส้นใย งอโค้งได้ ส่วนแอนทิโกไรต์ซึ่งโปร่งแสงและมีสีเขียวทั้งอ่อนและแก่ ใช้ทำหินประดับ แกะสลักเป็นรูปลักษณะต่างๆได้
|